มีวินัย ตรงเวลา ซื่อสัตย์ ใส่ใจ


มีวินัย

กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับการปฏิบัติสำหรับควบคุมความประพฤติของคนในสังคมให้เรียบร้อย ดีงาม เป็นแบบแผนอันหนึ่งอันเดียวอัน จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ถ้าต่างคนต่างทำตามอำเภอใจ ไม่มีกฎระเบียบ ขาดวินัยก็จะเกิดความขัดแย้ง ยิ่งมากคนยิ่งมากเรื่อง ไม่มีความสงบสุขการทำงานก็เสียผล ดังนั้น วินัยคือบางสิ่ง บางอย่างที่เราต้องทำไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆที่ต้องการ วินัยจึงมีความหมายมากกว่าคำว่าระเบียบหรือข้อบังคับ และมีความหมายต่อการพัฒนาชีวิตของเรามาก หากเราเข้าใจว่าวินัยเป็นสิ่งดีงามเราย่อมปรารถนาที่จะฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีวินัย จนสามารถใช้วินัยเป็นเครื่องมือในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายและสร้างความสำเร็จในด้านต่างๆที่เราต้องการได้


ตรงเวลา

การถือตามกำหนดเวลา สำหรับกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเห็นคุณค่าของความเท่าเทียมกัน ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้ใดไม่ถือเวลาเป็นสำคัญ ผู้นั้นเป็นคนไม่มีหลัก เชื่อถือไม่ได้ ’’ การฝึกตนให้ให้เป็นคนตรงต่อเวลา เป็นทางแห่งความสำเร็จและความก้าวหน้า

ประโยชน์ของการตรงต่อเวลา

1.ทำให้เรามีนิสัยขยันขันแข็ง เอาการเอางานอย่างจริงจัง

2.ฝึกให้เราเป็นคนกระตือรือร้น มี่ชีวิตชีวา

3.ทำให้เรามีความซื่อตรงต่อตัวเอง รักษาเกียรติยศของตนเอง

4.ทำให้เราทำงานได้สะดวก รวดเร็ว เรียบร้อยและมีผลดี

5.หน้าที่การงานประสบความสำเร็จ ชีวิตก้าวหน้า

6.สามารถกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราจะกระทำได้ในแต่ละวันทำให้ชีวิตมีระเบียบ และมีวินัยกับตนเอง

7.เป็นที่เชื่อถือ และไว้ใจของคนอื่น


ซื่อสัตย์

“ซื่อ” หมายถึง ตรงไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่คดโกง “ซื่อตรง”หมายถึง ความประพฤติตรง ไม่เอนเอียงไม่คดโกง ดังนั้นคำว่า ซื่อสัตย์ จึงหมายถึง ความประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและหลอกลวง หรือเราอาจจะพูดง่ายๆว่าคนซื่อสัตย์ ก็คือ คนที่เป็นคนตรง ประพฤติสิ่งใดด้วยน้ำใส่ใจจริง ความซื่อสัตย์ เป็นคุณธรรมที่จำเป็นต่อทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นความซื่อสัตย์ในระดับไหนก็ตาม จะต้องมีการปลูกฝังหรือสอนเยาวชนรุ่นหลังให้ประพฤติปฏิบัติ ทั้งนี้เพราะหากคนในสังคมขาดคุณธรรมข้อนี้เมื่อใด สังคมก็จะวุ่นวาย ไม่สงบคนเอารัดเอาเปรียบกัน และเห็นแก่ตัวมากขึ้น

ตัวอย่างเรื่องความซื่อสัตย์

1.การซื่อสัตย์ต่อตนเอง เช่น เราตั้งใจว่าจะไม่กินของหวาน ของมัน เพื่อลดน้ำหนัก แต่เราแอบกินแม้คนอื่นไม่ทราบแต่ตัวเรารู้ดี ซึ่งหากเราขาดความซื่อสัตย์ต่อตนเอง และพลัดผ่อนไปเรื่อยๆ ในระยะยาวเราอาจจะกลายเป็นคนขาดระเบียบ

2.การไม่ซื่อสัตย์ต่อครอบครัว เช่น การมีชู้ มีกิ๊ก มีความสัมพันธ์กับคนที่มีครอบครัวแล้ว

3.การไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เช่น เจ้าหน้าที่ข้าราชการ หรือพนักงานบริษัททั่วไป ทำการทุจริต คดโกง แสวงหาผลประโยชน์เข้าตนเอง โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานของตน

4.การไม่ซื่อสัตย์ต่อมิตร คือการไม่คิดคดทรยศเพื่อน ไม่ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อน ไม่กล่าวว่าร้าย


ใส่ใจ

หมายถึง การตั้งใจโดยจิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เรากำลังจะทำเป็นการตระหนักเรื่องนั้นๆอยู่ตลอดเวลาว่าสิ่งที่ทำดีหรือไม่ ทำแล้วจะเกิดอะไรบ้างมีผลดีผลเสียอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่าละเลย เช่น การใส่ใจในหน้าที่การงาน สิ่งที่ตนได้รับผิดชอบไม่ละเลยหน้าที่ ไม่ละเลยคำสั่งและไม่ละเลยสิ่งที่ผิด การใส่ใจคือการเอาใจ+ใส่ในทุกการกระทำนั้นเอง